ดายเออร์ หยุดสถิตินามทีมชาติไว้ที่ 45 เกมนับจากเตะพบ ไอซ์แลนด์ เมื่อพ.ย. 2020 กระทั่งล่าสุดถูกผจก.ทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกกลับมาเตะ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อิตาลี, เยอรมัน นับเป็นการเตรียมพร้อมสำคัญก่อน ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ ในอีก 8 สัปดาห์ข้างหน้า

ทั้งหมดทั้งมวลผู้เล่นวัย 28 กะรัตอยากขอบคุณ คอนเต้ ที่ให้ความเชื่อมั่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง จนสามารถสร้างผลงานลุ้นเป็น 1 จาก 26 ขุนพล ‘สิงโตคำราม’

“ผมเห็นใครก็ตามที่ติดทีมชาติถึง 50 นัด, 100 นัดก็ได้รับการเชิดชูเกียรติอย่างสูง – ก็ฝันอยากทำให้ได้แบนั้นบ้าง” การเปิดปากระหว่างอยู่ในศูนย์ฝึก เซนต์.จอร์จส์ พาร์ค

“เรื่องนั้นคาใจผมมากตลอดเวลาที่ไม่ถูกพิจารณาติดธง กวนใจจริงๆ เพราะตัวเองรักที่จะได้อยู่ในฐานะนั้น”

การกลับมาเกิดใหม่ของ ดายเออร์ ต้องขอบคุณ คอนเต้ กับระบบ 3-4-3 ของ สเปอร์ส ที่ให้แข้งอังกฤษยืนสวีปเปอร์ตัวสุดท้าย โชว์ความแกร่งเรื่องสั่งการ, ลูกกลางอากาศหรือขึ้นบอลจากแดนหลัง

“กับ คอนเต้ ผมไม่อยากนิยามแกว่าเป็นครู แต่แกเสียเวลากับผมมากในทุกๆด้าน”

“ส่งอิทธิพลต่อผมในทุกมิติ ไม่ว่าแท็คติค, ความแกร่งร่างกาย, จิตใจ บางทีต้องบอกว่าทุกๆอย่าง”

“ที่ผ่านมาไม่ได้ศึกษาศาสตร์ฟุตบอลให้ลึกซึ้ง กระทั่งได้ อันโตนิโอ เข้ามา ตัวเองรู้สึกว่าทฤษฎีสนุกขึ้น”

“แกคือกระบี่มือหนึ่งในระบบ 3 ปราการหลังตัวกลาง ดังนั้นตัวเองรู้สึกว่าได้เรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ยกระดับขึ้นมาก ปลุกความเชื่อมั่นที่เคยหล่นหายให้กลับมา”

ปัจจุบันทีมชาติอังกฤษก็ยืน 3 ปราการหลังตัวกลาง ดังนั้นไม่น่ามีปัญหาหาก ดายเออร์ จะรับโอกาสตัวจริงในเกมวันศุกร์ (23 ก.ค.) หรือจันทร์หน้า (26 ก.ย.)